การติดเชื้อราที่ผิวหนังเป็นปัญหาที่พบบ่อยในชุมชน ปัจจัยเสี่ยง เช่น ความอับชื้น สุขอนามัยที่ไม่ดี ภาวะติดเตียง สัตว์เลี้ยง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น เภสัชกรควรวินิจฉัยแยกการติดเชื้อราที่ผิวหนัง 3 ประเภทที่พบบ่อย ได้แก่ เกลื้อน กลาก และแคนดิดา เนื่องจากระยะเวลาการรักษาแตกต่างกันตามประเภทและบริเวณที่พบรอยโรค การรักษาทางเลือกแรกคือ ยาต้านเชื้อรารูปแบบทาภายนอก เนื่องจากมีประสิทธิภาพและเกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อย ยาต้านเชื้อรากลุ่ม azoles เป็นยากลุ่มหลักสำหรับรักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง โดยเฉพาะ clotrimazole ที่ประสิทธิภาพและความปลอดภัย มีรูปแบบเภสัชภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับบริเวณ ลักษณะรอยโรค ความสะดวก และความรู้สึกพึงพอใจของผู้ป่วย ยา 1% clotrimazole รูปแบบผงเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ช่วยให้ผู้ป่วยร่วมมือในการใช้ยา สามารถลดปริมาณเหงื่อและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ดี อย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในประเทศไทยซึ่งมีขนาดตัวอย่างจำกัด ทั้งนี้สิ่งสำคัญสำหรับการรักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง ขึ้นกับชนิดของการติดเชื้อ บริเวณและขนาดของรอยโรค เภสัชกรมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำการใช้ยารูปแบบทาภายนอกอย่างถูกต้อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ รวมถึงบางกรณีที่รอยโรคขนาดใหญ่อาจจำเป็นต้องใช้ยารับประทาน

ยาต้านเชื้อรารูปแบบทาภายนอก, การติดเชื้อราที่ผิวหนัง, clotrimazole, รูปแบบผง