วิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย
เภสัชกรรม ได้ออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยวิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2551 วิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย มีชื่อย่อว่า ว.ท. ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า TheCollege ofPharmacotherapy ofThailand (C.Ph.T.) มีหน้าที่หลักในการจัดฝึกอบรมและจัดสอบผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาเภสัชบำบัด นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานการประกอบวิชาชีพด้านเภสัชบำบัด ศึกษาวิจัย และเผยแพร่ความรู้ด้านเภสัชบำบัด
วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ มีสมาชิก 3 ประเภท ได้แก่
1. สมาชิกสามัญ ได้แก่ ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.1.เป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรม และเป็นผู้ได้รับหนังสืออนุมัติหรือ วุฒิบัตรเป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัด หรือวุฒิบัตรที่ สภาเภสัชกรรมรับรอง
1.2.เป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรม และเป็นสมาชิกก่อตั้งวิทยาลัยตามรายชื่อที่คณะกรรมการ สภาเภสัชกรรมรับรอง
2. สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ ผู้มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรม และเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ทั้งนี้โดยความเห็นชอบของวิทยาลัย
3. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้มีคุณวุฒิที่วิทยาลัยเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
การดำเนินงานในปัจจุบัน
คณะผู้บริหารวิทยาลัยบำบัดแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยกรรมการ จำนวน 11 ท่าน พร้อมคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ จำนวน 6 ท่าน รวมทั้งสิ้น 17 ท่าน ดำเนินการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัด โดยมีสถาบันหลักที่ได้รับการรับรองจากสภาเภสัชกรรม ในการจัดฝึกอบรมรวม 6 แห่ง ได้แก่
1. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
3. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
4. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
5. คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
หลักสูตรการฝึกอบรม
1. วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัด
1.1. ระยะเวลาในการฝึกอบรม 4 ปี
1.2. วิธีการฝึกอบรมประกอบด้วย
1.2.1. ภาคทฤษฏี จำนวน 10 หน่วยกิต
1.2.2. ภาคปฏิบัติ ปฏิบัติการและฝึกปฏิบัติงานในสาขาเภสัชบำบัด ในสถาบันฝึกอบรม ของสภาเภสัชกรรม จำนวน 91 หน่วยกิต
1.2.3. การทำวิจัย จำนวน 32 หน่วยกิต
2. ประกาศนียบัตร
2.1. ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในปีที่ 1 จะได้รับประกาศนียบัตร General residency in Pharmacotherapy
2.2. ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในปีที่ 3 จะได้รับประกาศนียบัตร Specialized residency in ________ pharmacotherapy
2.3. ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในปีที่ 4 จะได้รับประกาศนียบัตร Specialized fellowship in ________ pharmacotherapy
3. ประกาศนียบัตรการฝึกอบรมระยะสั้น 3 เดือน
3.1. หลักสูตรการบริบาลทางเภสัชกรรมในผู้ป่วยมะเร็ง
3.2. หลักสูตรการบริบาลทางเภสัชกรรมผู้ป่วยนอก
3.3. หลักสูตรการตรวจติดตามระดับยาในเลือด
ผู้เข้าฝึกอบรมที่ไม่สามารถเข้าฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง สามารถเข้าฝึกอบรมในชั้นปีที่ 1 เมื่อผ่านการประเมินผลจะได้รับประกาศนียบัตร General residency in Pharmacotherapy และเมื่อพร้อมสามารถกลับเข้ามาฝึกอบรมต่อในชั้นปีที่ 2 และ 3 ได้ โดยจะได้รับประกาศนียบัตร Specialized residency in ……………….. pharmacotherapy ในสาขาที่ฝึกอบรม หากเข้าฝึกอบรมต่อในชั้นปีที่ 4 จะได้รับประกาศนียบัตร Specialized fellowship in ………….. pharmacotherapy ในสาขาที่ฝึกอบรมและทำวิจัย ดังนั้นผู้ที่เข้าฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เมื่อผ่านการประเมินผลทั้งหมดจะได้รับวุฒิบัตรฯ สาขาเภสัชบำบัด และ ประกาศนียบัตรดังกล่าว
วิทยาลัยเภสัชบำบัดกำหนดการรับสมัครผู้เข้าฝึกอบรมในเดือน มีนาคมของทุกปี สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก Website สภาเภสัชกรรม www.pharmacycouncil.org
หนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัด
วิทยาลัยเภสัชบำบัดมีหน้าที่ในการจัดสอบประเมินความรู้ความสามารถด้านเภสัชบำบัดให้แก่เภสัชกรที่ทำหน้าที่บริบาลทางเภสัชกรรม ให้ได้รับหนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาเภสัชบำบัด โดยผู้ขอรับการประเมินต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ได้รับอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางเภสัชกรรม
2. ประกอบวิชาชีพในสาขาเภสัชบำบัดหรือที่เกี่ยวข้องเกื้อกูล มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี
3. มีคุณสมบัติเทียบเท่าตามที่สภาเภสัชกรรมรับรอง
ผู้ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวสามารถส่งใบสมัครมาที่วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ ได้โดยจะมีประกาศรับสมัครสอบเพื่อประเมินความรู้ปีละหนึ่งครั้งในเดือน มีนาคม
การจัดการศึกษาต่อเนื่องแก่เภสัชกร
วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ ได้ดำเนินการจัดประชุมทางวิชาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมา โดยกำหนดจัดปีละครั้ง มีเนื้อหาทางด้านเภสัชบำบัดเพื่อให้เภสัชกรที่ทำหน้าที่ในการบริบาลทางเภสัชกรรมมีความรู้ที่ทันสมัย โดยใช้ชื่อการประชุมว่า“เภสัชบำบัดร่วมสมัย (Contemporary Review in Pharmacotherapy)” วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ จัดการประชุมนี้มาแล้วรวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง มีเภสัชกรเข้าร่วมการประชุมกว่า 2,000 คน
|